คำสั่งเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ( if-else )
คำสั่งเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ( if-else )
จากตำสั่ง if ที่ผ่านมาจะใช้ในการเขียนโปรแกรมที่ใช้ทดสอบว่าจะเลือกทำหรือไม่ ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงจะทำคำสั่งหรือสเตตเมนต์หลัง if ในกรณีที่คอมพิวเตอร์ต้องเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยตรวจสอบเงื่อนไขที่กำหนดจะใช้คำสั่ง if-else ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงจะทำคำสั่งหลัง if แต่ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จจะทำคำสั่งหลัง else โดยนิพจน์การตรวจสอบเงื่อนไขที่ตามหลัง if จะเป็นข้อมูลทางตรรก รูปแบบคำสั่งเป็นดังนี้
จากตำสั่ง if ที่ผ่านมาจะใช้ในการเขียนโปรแกรมที่ใช้ทดสอบว่าจะเลือกทำหรือไม่ ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงจะทำคำสั่งหรือสเตตเมนต์หลัง if ในกรณีที่คอมพิวเตอร์ต้องเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยตรวจสอบเงื่อนไขที่กำหนดจะใช้คำสั่ง if-else ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงจะทำคำสั่งหลัง if แต่ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จจะทำคำสั่งหลัง else โดยนิพจน์การตรวจสอบเงื่อนไขที่ตามหลัง if จะเป็นข้อมูลทางตรรก รูปแบบคำสั่งเป็นดังนี้
การทำงานของคำสั่งนี้สามารถเขียนผังงานได้ดังนี้
สำหรับโปรแกรมเขียนได้ดังนี้
จากตัวอย่าง ถ้าหากเงื่อนไขของ if เป็นจริงจะทำสเตตเมนต์ที่ตามมา ซึ่งมีสเตตเมนต์เดียว แต่ถ้าหากเงื่อนไขของ if เป็นเท็จจะทำสเตตเมนต์หลัง else ซึ่งเป็นสเตตเมนต์รวมท เมื่อรันโปรแกรม ถ้าหากป้อนค่ารัศมีที่มีค่าน้อยกว่าศูนย์จะได้ผลลัพธ์ดังนี้
ถ้าหากป้อนรัศมีที่มีค่ามากกว่าศูนย์จะได้ผลลัพธ์ดังนี้
โปรแกรมที่ 3.5 จงเขียนโปรแกรมรับตัวเลขสองตัวเป็นจำนวนเต็ม จากนั้นให้คอมพิวเตอร์หารเลขทั้งสองแล้วแสดงผลหารออกมา
วิธีทำ ในการหารเลขนั้นจะต้องตรวจสอบด้วยง่าตัวหารมีค่าเป็นศูนย์หรือไม่ ถ้าเป็นศูนย์จะหารไม่ได้ ในโปรแกรมต่อไปนี้จะประกาศตัวแปรสำหรับเก็บตัวเลขสองตัวคือnumber1 และ number2 ส่วนผลการหารจะเก็บไว้ในตัวแปร quotient
วิธีทำ ในการหารเลขนั้นจะต้องตรวจสอบด้วยง่าตัวหารมีค่าเป็นศูนย์หรือไม่ ถ้าเป็นศูนย์จะหารไม่ได้ ในโปรแกรมต่อไปนี้จะประกาศตัวแปรสำหรับเก็บตัวเลขสองตัวคือnumber1 และ number2 ส่วนผลการหารจะเก็บไว้ในตัวแปร quotient
แต่ถ้าหากป้อนค่าแรกเป็น 10 และค่าที่สองเป็น 4 ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นดังนี้
โปรแกรมที่ 3.6 จงเขียนโปรแกรมสำหรับคำนวณจำนวนเงินค่าจ้าง โดยมีอัตราจ้างชั่วโมงละ 150 บาท โดยจะต้องทำงาน 40 ชั่วโมง แต่ถ้าหากทำงานเกิน 40 ชั่วโมงในชั่วโมงที่เกินจะได้ค่าจ้างเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์
วิธีทำ โปรแกรมจะต้องรับจำนวนชั่วโมงเข้าไป และโปรแกรมทดสอบว่า จำนวนชั่วโมงเกิน 40 หรือไม่ ถ้าเกินให้นำจำนวนชั่วโมงที่เกินมาคิดจำนวนเงินเพิ่มชั่วโมงละ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำได้โดยนำจำนวนชั่วโมงที่เกินมาคูณกับ 1.5 แล้วคูณกับค่าจ้างรายชั่วโมง
ถ้าให้ STANDARD เป็นจำนวนชั่วโมงมาตรฐานที่ต้องทำ, RATE เป็นค่าจ้างรายชั่วโมง, hours เป็นชั่วโมงทำงาน สามารถเขียนการตรวจสอบเงื่อนไขได้ดังนี้
วิธีทำ โปรแกรมจะต้องรับจำนวนชั่วโมงเข้าไป และโปรแกรมทดสอบว่า จำนวนชั่วโมงเกิน 40 หรือไม่ ถ้าเกินให้นำจำนวนชั่วโมงที่เกินมาคิดจำนวนเงินเพิ่มชั่วโมงละ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำได้โดยนำจำนวนชั่วโมงที่เกินมาคูณกับ 1.5 แล้วคูณกับค่าจ้างรายชั่วโมง
ถ้าให้ STANDARD เป็นจำนวนชั่วโมงมาตรฐานที่ต้องทำ, RATE เป็นค่าจ้างรายชั่วโมง, hours เป็นชั่วโมงทำงาน สามารถเขียนการตรวจสอบเงื่อนไขได้ดังนี้
สามารถเขียนโปรแกรมได้ดังนี้